หากไปตามสถานที่แข่งขันหรือเล่นกีฬาต่างๆ ท่านสามารถสังเกตได้ว่าพื้นสนามกีฬานั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสีสันหรือผิวสัมผัส ซึ่งการที่สนามกีฬาถูกออกแบบมาเป็นรูปแบบต่างๆ ตามที่เห็น ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการเล่นกีฬา และช่วยลดการบาดเจ็บของนักกีฬาที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุนั่นเอง
ในบทความนี้ของ TechnoPlus+ จะมาแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบถึง 5 ประเภทของพื้นสนามกีฬาว่าทำมาจากวัสดุอะไรและช่วยให้การเล่นกีฬาเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากเพียงใด
1. ระบบพื้นสนามกีฬาโพลียูรีเทน (Polyurethane)
ระบบการปูพื้นสนามกีฬาด้วยโพลียูรีเทน (Polyurethane) มีตัวย่อว่า PU หรือ PU Sport Floor ทำมาจากวัสดุเรซินโพลียูรีเทน 100% ร่วมกับชั้นยางสังเคราะห์ที่มีความหนาตั้งแต่ 2 -10 มิลลิเมตร เป็นพื้นที่มีความยืดหยุ่นสูง มีความทนทานต่อแสงแดดได้ดี ไม่ว่าจะปูในร่มหรือกลางแดดก็ทำได้ ทนต่อแรงเสียดสี ขัดถูของรองเท้านักกีฬา พร้อมกับมีสีสันให้เลือกใช้ได้ตามต้องการ และยังสามารถเป็นชั้นที่ปูบนคอนกรีต เพื่อป้องกันการแตกร้าวจนต้องซ่อมรอยร้าวพื้นคอนกรีต
ความยืดหยุ่นที่สูงของโพลียูรีเทนนั้นจะสามารถช่วยรองรับแรงกระแทกได้ดี ลดอาการบาดเจ็บของนักกีฬาได้ หากมีการหกล้มเกิดขึ้น มีความทนทาน ใช้ได้กับพื้นสนามกีฬาทุกประเภท เช่น ฟุตซอล สนามบาสเกตบอล สนามเด็กเล่น สนามแบดบินตัน ฯลฯ นับว่าเป็นหนึ่งในพื้นสนามกีฬายอดนิยมเลยก็ว่าได้
2. ระบบพื้นสนามกีฬาอะคริลิก (Acrylic)
เป็นการปูพื้นด้วยวัสดุอย่างอะคริลิก 100% ซึ่งอาจทำร่วมกับชั้นยางสังเคราะห์เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น สามารถทำความหนาได้ตั้งแต่ 2.5 – 5 มิลลิเมตร และระบบนี้เป็นระบบที่ได้มาตรฐานรองรับสากล กันน้ำได้โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบกันซึมบนดาดฟ้าของสนามกีฬาแต่อย่างใด พร้อมทั้งมีแรงยึดเกาะ รองรับแรงกระแทก จะทำให้ผิวสัมผัสนั้นหยาบหรือเรียบก็ทำได้
เหตุผลที่ระบบพื้นสนามกีฬาอะคริลิกเป็นมาตรฐานสากลก็เพราะความยืดหยุ่น และมีแรงยึดเกาะ รับแรงกระแทกได้ ทนทานต่ออุปกรณ์กีฬาหรือรองเท้ากีฬาที่ต้องกระทบกับพื้น เหมาะสำหรับทำสนามเอกประสงค์ให้กับกีฬาทั่วไป
3. ระบบพื้นยางวัลคาไนซ์ (Vulcanized Rubber)
พื้นประเภทนี้จะไม่สามารถพบเห็นได้บ่อยตามสนามกีฬา เนื่องจากเป็นพื้นยางรีไซเคิลที่มีชั้นด้านบนไว้ทำสี และมีความทนทานสูงมาก ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในพื้นที่ที่พลุกพล่านและใช้งานหนัก จึงมักถูกนำมาใช้ในฟิตเนส เพื่อรองรับความหนักของอุปกรณ์ต่างๆ และการใช้งานที่พลุกพล่าน อีกทั้งยังสามารถดูดซับเสียงได้ดี ลดการรบกวนอีกด้วย
4. ระบบพื้นไวนิล (Sports Vinyl)
พื้นสนามกีฬาประเภทพื้นไวนิล มีคุณสมบัติดูดซับแรงกระแทกได้สม่ำเสมอ มีผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกสบายเท้ากับนักกีฬา เหมาะกับกีฬาที่ต้องใช้แรงขาและข้อเท้า อย่างเช่น บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ฟุตซอล และการใช้งานอื่นๆ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับกิจกรรมอเนกประสงค์ต่างๆ ที่ไม่จำกัดแค่พื้นสนามกีฬา นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี พื้นชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้ตามโรงเรียน ศูนย์ชุมชน และศูนย์กีฬาเอกชน
5. ระบบพื้นไม้เมเปิล (Maple Hardwood)
พื้นไม้เมเปิลอาจไม่สามารถพบเห็นได้บ่อยนัก เพราะเป็นพื้นที่ออกแบบมาใช้กับกีฬาบาสเกตบอลโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติทนทานต่อแรงกระแทกสูง ถึงแม้จะเป็นพื้นไม้แต่ก็ลดความเสียหายและช่วยซัพพอร์ตข้อต่อนักกีฬาได้ดี อีกทั้งเป็นพื้นที่ช่วยให้ลูกบาสสะท้อนกลับได้ดี เป็นที่นิยมตั้งแต่การแข่งขันระดับประถมไปจนถึงการแข่งขันใหญ่อย่าง NBA (National Basketball Association) เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นพื้นไม้ จึงต้องมีการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าพื้นสนามกีฬาประเภทอื่นๆ เลยทีเดียว
TechnoPlus+ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำพื้นสนามกีฬา พร้อมทีมคอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำทางเลือกระบบพื้นที่เหมาะสมที่สุดกับประเภทกีฬา ทีมงานติดตั้งที่ทั้งมากประสบการณ์และผ่านการอบรมอย่างดี หากท่านต้องการติดตั้งพื้นสนามกีฬา ให้นึกถึง TechnoPlus+ เป็นอันดับแรก
บริษัท เทคโนพลัส (ไทยแลนด์) จํากัด บริษัทผู้เชี่ยวชาญงานติดตั้งระบบกันซึม ระบบเคลือบพื้นผิว ด้วยผลิตภัณฑ์ชั้นนำคุณภาพสูง และแก้ไขซ่อมโครงสร้างอาคารหรือซ่อมรอยร้าวคอนกรีตทุกชนิด สำหรับการติดตั้งระบบกันซึมดาดฟ้าจะคิดเป็นระบบกันซึมดาดฟ้าต่อตารางเมตร หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อ บริษัท เทคโนพลัส (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ที่ technoplus.th@gmail.com หรือ โทร: 02-136-7137 และ 096-867-1888